ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้ตกเป็นเหยื่อหลายคนรายงานถึงการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น เมียนมา, กัมพูชา, ไทย และลาว ด้วยสัญญาจ้างปลอมเกี่ยวกับงานที่ได้ค่าตอบแทนสูง ซึ่งหลังจากนั้น พวกเขาทั้งหมดถูกกักขังและบังคับให้ทำงานร่วมกับขบวนการนี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางการฮ่องกงจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ เพื่อช่วยเหลือชาวฮ่องกงที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงดังกล่าว ซึ่งคำร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจกว่า 36 กรณี เกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงาน ตามข้อมูลของนายโทนี โฮ ผู้กำกับการอาวุโสของสำนักงานปราบปรามขบวนการอาชญากรรม
ทั้งนี้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 2 คน ในข้อหาหลอกลวงชาวฮ่องกงให้ยอมรับข้อเสนองานในต่างประเทศที่ “ไม่สมจริงอย่างยิ่ง” อีกทั้งเชื่อว่ามีเหยื่ออีก 22 ราย ที่ยังติดอยู่ในกัมพูชาและเมียนมา ซึ่ง 9 คนในกลุ่มนั้นไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวหรือทางตำรวจฮ่องกงแต่อย่างใด
นอกจากนี้ โฮ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหยื่อทุกคนได้รับตั๋วเครื่องบินไปยังประเทศต่าง ๆ และถูกยึดหนังสือเดินทางทันทีที่ไปถึง ก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งตัวไปยังศูนย์ปฏิบัติการ และบีบบังคับให้หลอกลวงผู้อื่นต่ออีกทอดหนึ่ง
ขณะที่ นางแพทริเซีย โฮ นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า กฎหมายที่มีอยู่ของฮ่องกงไม่เพียงพอที่จะจัดการกับขบวนการเหล่านี้ได้ เนื่องจากฮ่องกงไม่มีกฎหมายที่ห้ามการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานโดยเฉพาะ